-->

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

ความสุขของกะทิ


นวนิยายความรัก เรื่อง ความสุขของกะทิ
ของ งามพรรณ  เวชชาชีวะ



     กะทิ เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องจากกับแม่ตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งแม่ของเขาไม่เคยสัญญาว่าจะกลับมา เขาอาศัยอยู่กับตายายที่บ้านริมคลอง กะทิรอแม่ทุกวัน ทุกๆเช้าเสียงของกระทะกับตะหลิวที่ยายทำกับข้าวจะปลุกให้กะทิตื่นขึ้นทุกวัน ภาพในบ้านไม่มีรูปถ่ายของแม่เลย ไม่เคยมีใครพูดถึงแม่ของเขา ซึ่งตอนนี้กะทิก็จำหน้าของแม่ไม่ได้แล้ว ทุกวันที่กะทิไปโรงเรียนยายจะทำสารพัดเมนูไข่ใส่ปิ่นโตให้กะทิไปกินที่ โรงเรียน กะทิอยากให้แม่ไปรับเขาที่โรงเรียนบ้าง ละกะทิก็มีพี่ทองที่เป็นเด็กวัดเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งกะทิได้ปีนเข้าไปเล่นในโอ่งแล้วได้ยินเสียงของตาพูดกับใครคนหนึ่ง ทางโทรศัพท์ว่า 

“จะให้รอจนโรงเรียนเปิดเทอมก่อนหรือ เรามีเวลานานขนาดนั้นจริงหรือ” 

กะทิใช้ชีวิตตามประสาเด็กธรรมดาคนหนึ่ง จนกระทั่งวันหนึ่งยายถามเขาว่า “กะทิอยากไปหาแม่ไหมลูก” จากนั้นตาก็เดินเข้ามาแล้วดึงกะทิเข้าไปกอด และบอกกับเขาว่า “แม่ป่วย ป่วยมาก ไปรักษาตัวมาหลายแห่งแล้ว แต่ไม่หาย”

     น้าฎาเป็นคนขับรถมารับกะทิและตายายไปหาแม่ที่บ้านชายทะเล นานหลายปีทีเดียวที่กะทิไม่ได้พบแม่ เมื่อเขากับแม่ได้เจอกัน เขาทั้งสองกอดกัน แล้วน้ำตาจากความดีใจก็ไหลรินรวมกัน ในตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเขาเหลือเวลาอีกนานเท่าไร ในตอนนี้เขาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านชายทะเลกับแม่ของเขาและแม่ก็เล่าให้เขาฟัง ว่าทำไมถึงต้องทิ้งเขามา เพราะตอนกะทิเด็กๆแม่ของเขาพากะทิไปพายเรือเล่นแล้วฝนตก ซึ่งตอนนั้นแม่ของเขาก็เริ่มป่วยแล้ว ขากลับแม่วางกะทิลงในเรือ แล้วหันไปปลดเชื่อกล่ามเรือ แต่ก็ทำเชื่อกหลุดมือ ตอนนั้นแม่ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อธิฐานให้กะทิปลอดภัย แล้วแม่จะไม่แตะต้องตัวกะทิอีก แล้วพี่ทองก็พายเรือผ่านมาช่วยกะทิไว้ แล้วแม่ของเขาก็ทำตามที่พูดไว้ จากวันนั้นแม่ของเขาก็โคม่าอยู่สามวันก่อนจะจากไปอย่างสงบ

     พอเสร็จจากงานศพของแม่ กะทิก็เดินทางมาที่บ้านกลางเมืองและเขาได้เข้าไปภายในห้องชั้นบน
 ซึ่งมีลิ้นชักใหญ่เล็กที่กินเนื้อที่ของผนังตลอดแนว ลุงตองบอกว่าแม่จัดห้องนี้เอง แม่รวบรวมทุกอย่างไว้ที่นี้ ลิ้นชักทุกลิ้นชักมีเลข พ.ศ. กำกับไว้ตั้งแต่แม่เกิด แล้วลุงตองก็ได้ให้จดหมายจ่าหน้าซองถึงพ่อของกะทิ ลุงตองบอกว่าเพียงหย่อนจดหมายนี้ลงตู้กะทิก็จะได้พบพ่อ ทุกคนรอการตัดสินใจของกะทิว่าจะส่งจดหมายหรือไม่ กะทิขอให้ น้าฎาพาไปที่ตู้ไปรษณีย์เพื่อส่งจดหมาย และกะทิก็รออีก 7 วันตามที่แม่บอกไว้ แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับจากพ่อ กะทิจึงกลับไปอยู่ที่บ้านริมคลองกับตายาย พี่ทองกลับมาจากต่างประเทศแล้วและพี่ทองก็ซื้อหนังสือดูดาวมาฝากกะทิ ภายในหนังสือมีโปสต์การ์ดลายมือพี่ทองจ่าชื่อที่อยู่ของกะทิ คืนนั้นกะทิใส่โปสต์การ์ดลงไปรวมกับจดหมายของแม่ที่เขียนถึงพ่อ จดหมายฉบับที่กะทิตัดสินใจไม่ส่งไปหาพ่อ

     กะทิกราบพระก่อนนอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปโรงเรียน ทุกอย่างเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วเสียงตะหลิวของยายก็ปลุกกะทิขึ้นมาพบกับโลกใบนี้อีกครั้ง

วรรคทองของเรื่อง “ความสุขของกะทิ”

-     “อดีตเหมือนเงาบางครั้งทอดนำอนาคต”
-     “น้ำตาไม่อาจแทนความโศกเศร้าได้”
-     “หนูคืออนาคตของแม่ตั้งแต่วันที่ชีวิตแม่นับถอยหลัง”
-     “ความรักมีหลายรูปแบบและสีสัน”
-     “ความสุขของคนรอบข้างคือความสุขของเราด้วย”
-     “ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา”

ข้อคิดของเรื่อง “ความสุขของกะทิ”

-     “ชีวิตคนเราไม่แน่นอน จะทำอะไรก็ควรรีบทำ”
-     “การที่เราจะมีความสุขนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราไม่ใช่สิ่งรอบกาย”
-     “ชีวิตของคนเรามีทั้งสุขและทุกข์”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น